การสำรวจความคิดเห็นบรรดาเยาวชนในเรื่อง "คนแรกที่ท่านคิดถึงเมื่อยามทุกข์" ของศูนย์อบรมคริสตศาสนธรรมประเทศไทยจากจำนวนเยาวชน 466 คน ปรากฎว่า
อันดับแรกของเยาวชนร้อยละ 50 คือ พ่อแม่และคนในครอบครัว
รองลงมาร้อยละ 33 คิดถึงพระเจ้า พระเยซูเจ้า และแม่พระ
ส่วนที่เหลือเป็นคำตอบอื่นๆ เช่น เพื่อน แฟน ฯลฯ
อันดับแรกของเยาวชนร้อยละ 50 คือ พ่อแม่และคนในครอบครัว
รองลงมาร้อยละ 33 คิดถึงพระเจ้า พระเยซูเจ้า และแม่พระ
ส่วนที่เหลือเป็นคำตอบอื่นๆ เช่น เพื่อน แฟน ฯลฯ
ตามความคิดเห็นของเยาวชน ขอยกบางตอนจากบทความเรื่อง "วิกฤตวันรุ่น ปัญหาหรือปรากฏการณ์" จากนิตยสาร "สื่อพลัง" ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 ประจำเดือนมกราคม - มีนาคม 2548 มาประกอบ เพื่อให้พ่อแม่เป็นที่พึ่งของลูกได้อย่างดียิ่งขึ้นดังนี้
จากการสัมภาษณ์เยาวชนจำนวนมากและการเฝ้าติดตามพฤติกรรมเยาวชน ทั้งในสถานศึกษาและนอกระบบ รวมถึงการให้เยาวชนได้มีส่วนในการแสดงความคิดเห็นของ พญ.พรรณพิมล หล่อตระกูล และดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ พบว่า "เยาวชนต้องการที่ปรึกษาหรือผู้ที่แสดงความเข้าอกเข้าใจ ยินดีรับฟังปัญหาและให้คำแนะนำแก่เขาโดยไม่ด่าว่า ไม่ตัดสินหรือมุ่งแต่จะเห็นเขาเป็นปัญหา"
พญ.พรรณพิมลยังให้คำแนะนำแก่พ่อแม่ในการสอนลูก ปัจจุบันพ่อแม่จะให้ลูกอยู่ในกรอบหรือจะใช้วิธีการสมัยที่ตนเองได้รับการเลี้ยงดูมาใช้ เช่น การกำหนดสิ่งต่างๆ ให้ลูกกระทำ ต้องเรียบร้อย ต้องพูดเพราะ ฯลฯ ไม่ได้แล้ว เพราะลูกไม่ได้อยู่แต่ในบ้านเท่านั้น ยุคนี้เปิดกว้างอย่างที่พ่อแม่ต้องไล่ตามอย่างหนักและคงตามไปทุกที่ไม่ได้ สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ ก็คือ ทำอย่างไรที่จะให้ลูกสามารถคิดและตัดสินใจด้วยตนเองได้ ซึ่งบางครั้งพ่อแม่จะต้องมองข้ามพฤติกรรมบางอย่างของลูกไป
"การห้าม" อย่างเดียวไม่พอ สิ่งที่สำคัญมีอย่างเดียวคือ "คุยกัน" ด้วยวิธีคิด พ่อแม่ต้องเปิดเพื่อที่จะได้คุยกันได้ หาวิธีการเรียนรู้ร่วมกัน ให้โอกาสในการตัดสินใจให้มากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ลูกสามารถคิดได้ด้วยตนเอง ต้องคุยกันทางความคิดแบบที่ไม่ใช่ตัดสินจากตัวเราเป็นหลัก ค่อยๆ สร้างการตัดสินใจให้เขา ถ้าเราให้เวลากับเขามากขึ้น มีเวลาคุยกันในเรื่องทั่วไป เราจะพบว่าเด็กค่อยๆ สะสมความคิดที่ได้รับจากพ่อแม่มากกว่าข้างนอก และหล่อหลอมเป็นตัวตนของเขาในที่สุด
อยากจะบอกพ่อแม่ว่าจริงๆ แล้วเรามีอิทธิพลต่อลูกนะ แต่หมายความว่าเราต้องทำด้วย ไม่ใช่คาดหวังอย่างเดียว