วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556

ไม่นิยม...ต่างคนต่างถือ

ความรักและการแต่งงานเป็นเรื่องปรกติของมนุษย์ บรรดาคาทอลิกผู้หลักผู้ใหญ่จำนวนมากไม่สบายใจเกี่ยวกับการแต่งงานของคนรุ่นใหม่ เพราะเห็นว่าสมัยนี้กระทำพิธีกันง่าย ๆ ไม่เคร่งครัดไม่มีการอบรม ไม่มีการเรียนคำสอน เป็นต้นเรื่องของศาสนา ซึ่งแต่ก่อนนั้นคาทอลิกจะต้องแต่งงานกับคาทอลิก แม้จะไม่เป็นกฎหมายแต่เป็นประเพณีที่เคร่งครัดมาก
                ผลการสำรวจความคิดเห็นบรรดาเยาวชนคาทอลิกของศูนย์อบรมคริสตศาสนธรรมประเทศไทย (2546) ในหัวข้อว่า ท่านประสงค์ที่จะแต่งงานกับคนศาสนาเดียวกันหรือไม่
                เยาวชนที่ตอบคำถามนี้มีทั้งสิ้น 461 คนคำตอบที่มีจำนวนมากที่สุด ร้อยละ 43 ตอบว่ามีความประสงค์ที่จะแต่งงานกับคนศาสนาเดียวกัน ในขณะที่ร้อยละ 28 ตอบว่า ไม่จำเป็น ได้ก็ดี ส่วนที่เหลือตอบแตกต่างกันไป เช่น ไม่รู้ ไม่คิด ไม่แต่งงาน จะบวช ฯลฯ
                คำถามและคำตอบในเรื่องที่ว่าประสงค์คิดว่าควรแต่งงานกับคนในศาสนาเดียวกันหรือไม่นี้ เป็นเพียงความคิด ยังไม่ได้เป็นความเป็นจริง คิดได้ ประสงค์ได้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นไปได้หรือไม่ เพราะจากผลงานวิจัยของวิทยาลัยแสงธรรม เรื่อง การแต่งงานแบบนับถือศาสนาต่างกัน เมื่อ ปี พ.. 2544 สรุปผลว่า แนวโน้มของคู่สมรสระหว่างคาทอลิกกับผู้ที่มิใช่คาทอลิก ในปี พ.. 2538 – 2540 โดยเฉลี่ยทุก
สังฆมณฑลในประเทศไทยสูงขึ้นประมาณร้อยละ
70 แสดงว่าในการแต่งงาน 10 คู่ เป็นการแต่งงานแบบต่างศาสนากัน 7 คู่
                ถ้าจะถามว่าการแต่งงานแบบต่างคนถือมีผลอย่างไรต่อชีวิตครอบครัว ร้อยละ 31.6 ตอบว่าทำให้ความเชื่อและการปฏิบัติศาสนกิจลดลง ร้อยละ 75.3 ตอบว่า ไม่มีปัญหาและอุปสรรคในด้านความสัมพันธ์ ร้อยละ 22.8 ตอบว่า มีปัญหาเรื่องการปฏิบติศาสนกิจของบุตรธิดา
                ความต้องการของคู่สมรสแบบต่างคนต่างถือ ร้อยละ 70 ต้องการความช่วยเหลือในเรื่องของความเชื่อ เช่น การเรียนคำสอน การเข้าเงียบฟื้นฟู การศึกษาพระคัมภีร์ เป็นต้น
                จากข้อมูลนี้ แสดงให้เห็นว่าแม้คู่สมรสจะตอบว่า ไม่มีปัญหาอะไรที่เด่นชัด จนทำให้เป็นอุปสรรคต่อชีวิตคู่ แต่ฝ่ายคาทอลิกเองมีความรู้สึกว่าตนเองต้องการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในศาสนาให้มากขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่าคนเองต้องตอบคำถามเกี่ยวกับศาสนาให้คู่ครองหรือญาติพี่น้อง หรือแม้กระทั่งลูกของตนเอง ความต้องการเช่นนี้ ผู้ใหญ่ของพระศาสนจักรควรจะต้องรับฟังและหาวิธีช่วยเหลือด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง
                คำสอนคาทอลิกข้อที่ 1633 – 1637 ได้ให้คำสอนเกี่ยวกับการแต่งงานแบบผสมผสานว่า สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมากมายทั่วโลก ความแตกต่างทางความเชื่อของคู่สามีภรรยา ไม่ได้เป็นอุปสรรคจนแก้ไขไม่ได้ ถ้าหากทั้งคู่พยายามเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ใช้พระพรที่แต่ละคนมีรับใช้กันและกัน
                ตามกฎหมายพระศาสนจักร ผู้ที่ปรารถนาที่จะแต่งงานแบบต่างคนต่างถือศาสนาของตนเอง จะต้องเสนอเรื่องขออนุญาตจากผู้มีอำนาจในพระศาสนจักรเสียก่อน เรื่องนี้ทำไม่ยากอะไรเพียงแต่ให้พาแฟนของตนเองไปพบคุณพ่อเจ้าอาวาส ขอคำปรึกษาจากท่าน แล้วคุณพ่อจะช่วยท่านเอง หลายท่านบ่นว่ายุ่งยาก แต่อย่าลืมว่าศาสนาหวังดีต่อท่าน ทำเพื่อท่าน อยากให้ท่านรักกันอย่างแท้จริง อยากให้ครอบครัวของท่านมีความสุข การที่ต้องมีกฎระเบียบก็เพื่อตัวท่านเอง จริงไหม
                คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิกได้พูดถึงหน้าที่พิเศษของฝ่ายคาทอลิก โดยอ้างอิงคำสอนของนักบุญเปาโลที่ว่า เพราะสามีที่ไม่ใช่คริสตชนได้รับความศักดิ์สิทธิ์จากพระเจ้าโดยผ่านทางภรรยาและภรรยาที่มิใช่คริสตชนก็จะได้รับความศักดิ์สิทธิ์จากพระเจ้าโดยทางสามีคริสตชน( 1คร 7:14) หมายความว่าคาทอลิกจะต้องเป็นผู้นำความศักดิ์สิทธิ์ไปให้คู่ครองตนเอง ด้วยการนำความรัก ความจริงใจ ความสุภาพถ่อมตน ความอดทน การอธิษฐานภาวนา....อย่างนี้ ครอบครัวก็จะเป็นครอบครัวที่มีความสุขอย่างแท้จริง และสักวันหนึ่งความดีงามของท่านจะชนะใจได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น