การไปวัดในวันอาทิตย์เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคาทอลิกทุกคนถือว่าวันอาทิตย์เป็นวันของพระเจ้า
จะต้องทำให้วันนี้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ด้วยการไปสรรเสริญขอบพระคุณพระเจ้าที่วัด
และการอยู่กับครอบครัวหรือการออกไปทำกิจกรรมที่ดีต่อสังคม
สำหรับคนที่ติดธุระในวันอาทิตย์
พระศาสนจักรอนุโลมให้ไปร่วมมิสซาฯในวันเสาร์แทนได้ แต่ถ้าไม่จำเป็น
ควรที่จะทำวันอาทิตย์ให้ศักดิ์สิทธ์ตามเจตนารมณ์เดิมจะดีกว่า
ศูนย์อบรมคริสตศาสนธรรมประเทศไทย
ได้ทำการสำรวจเยาวชนในประเด็นที่ว่า “ถ้ามีเพื่อนไมม่ไปวัด
ท่านจะทำอย่างไร” ไปวัดที่นี้ หมายถึง วัดในวันอาทิตย์
ผลการสำรวจจากเยาวชน
466 คน ให้คำตอบมาทั้งสิ้น 474 คำตอบ
คำตอบที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 68 ตอบว่า
ชวนเขาให้ไปด้วย โดยไม่บังคับแต่อธิบายเหตุผล ส่วนที่เหลือร้อยละ 32 เป็นคำตอบอื่น ๆ เช่น เฉย ๆ ตามใจเพื่อน ไม่ใช่เรื่องของเรา
คำตอบที่รุนแรงก็มีเช่น ต่อว่า ด่า และที่มาในแนวศรัทธาก็มี เช่น พลีกรรมให้ ฯลฯ
ที่ใช้เทคนิคน่ารัก ๆ เช่น ชวนไปเล่นกีฬาสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา
ไปรับเขาที่บ้าน ทำตัวเป็นตัวอย่าง ฯลฯ
เรื่องของการไปวัด
ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล เป็นการตัดสินใจใช้เสรีภาพที่พระเจ้าประทานให้อย่างเสรี
การทำดีด้วยตนเองกับการทำดีโดยการบังคับมีผลที่แตกต่างกันมาก
การบังคับหรือคำสั่งให้ไปวัดไม่ได้เป็นเรื่องที่แปลกสำหรับเด็ก
ๆ แต่สำหรับเยาวชน
พวกเขาต้องการเหตุผลและต้องการที่จะทำอะไรโดยการตัดสินใจด้วยตัวของเขาเอง
บรรดาผู้ใหญ่มีเหตุผลอะไรที่จะบอกให้พวกเขาไปวัด
ทำไมต้องไปวัด
พิธีมิสซาฯมีความหมายอะไร รับศีลมีประโยชน์อะไร ฯลฯ เรื่องต่าง ๆเหล่านี้
เยาวชนของเรามีความรู้อย่างดีแล้วหรือยัง
นอกจากความรู้แล้ว
ทัศนคติต่อการไปวัด และการร่วมพิธีกรรมของพวกเขาเป็นอย่างไร มีจุดไหนที่ทำให้พวกเขามีความประทับใจ
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของวัด
หรือในพิธีกรรมพวกเขาได้มีส่วนร่วมมากน้อยเพียงไร
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสมาชิกในวัดและกับคุณพ่อเจ้าวัดของเขาเป็นอย่างไรบ้าง
วัดไม่ใช่โรงหนังโรงละครหรือห้างสรรพสิ่งค้า
ที่ลูกค้าเดินเข้า ๆ ออก ๆ โดยไม่จำเป็น ต้องมีความสัมพันธ์ระหว่างกัน
ทำอย่างไรให้เยาวชนมาวัด
นอกจากจะให้ “เพื่อนช่วยเพื่อน” แล้ว เรายังมีวิธีอื่น ๆ อีกได้ไหม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น